4 ระยะริดสีดวงทวารที่คุณควรรู้ #
เพราะริดสีดวงทวารมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน จากหลายปัจจัย เช่นพฤติกรรมการถ่าย การใช้ชีวิต อาหารการกิน เราจึงต้องหมั่นดูแล และคอยสังเกตุอาการของตัวเอง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนคือริดสีดวงทวาร ?
ริดสีดวงทวาร โรคที่เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณทวารหนัก โดยทั่วไปแล้วบริเวณทวารหนัก จะมีเส้นเลือด เเละหลอดเลือดขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดการคั่งของเลือดขึ้น จะเกิดการโป่งพองทำให้ให้เกิดเป็น “หัวริดสีดวง” ขึ้น ซึ่งสามารถเกิดได้พร้อมกันหลายตำเเหน่ง
โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งระยะของริดสีดวงออกเป็น 4 ระยะดังนี้
ระยะที่ 1 ติ่งอยู่ด้านใน ถ่ายเป็นเลือด #
หลอดเลือดบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง ซึ่ง เกิดอยู่ภายในบริเวณทวารหนัก และไส้ตรง ยังไม่มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาด้านนอกรูทวาร เวลาขับถ่ายอาจมีเลือดปนออกมาในบางครั้ง หากมีอาการท้องผูก หรืออุจจาระแข็งร่วมด้วย อาจทำให้มีเลือดออกมามากขึ้นกว่าเดิม
ระยะที่ 2 ติ่งโผล่เมื่อถ่าย หดกลับเองได้ #
หลอดเลือดบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง จนเกิดเป็นหัวริดสีดวงปลิ้นออกมาบริเวณปากทวารหนักในขณะขับถ่าย แต่ !! หัวริดสีดวงสามารถหดกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้เองหลังจากการขับถ่ายเสร็จ
ระยะที่ 3 ติ่งใหญ่โผล่เมื่อถ่าย ต้องใช้นิ้วดัน #
หลอดเลือดบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง จนเกิดเป็นหัวริดสีดวงปลิ้นออกมาบริเวณปากทวารหนักในขณะขับถ่าย แต่ในระยะนี้ “หัวริดสีดวงจะไม่สามารถหดกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้ ” หลังการขับถ่ายเสร็จ อาจต้องใช้ปลายนิ้วช่วยดันเพื่อให้หัวริดสีดวงกลับเข้าไป ภายในทวารหนัก
ระยะที่ 4 ติ่งใหญ่โผล่ตลอดเวลา อักเสบ ปวด บวม #
หลอดเลือดบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพอง จนเกิดเป็นหัวริดสีดวงปลิ้นออกมาบริเวณปากทวารหนักแบบถาวรในระยะนี้หัวริดสีดวงจะมีขนาดใหญ่กว่าระยะก่อนหน้านี้ จึงทำให้ไม่สามารถหดกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้ จะค้างอยู่ที่ปากทวารหนัก แม้จะใช้นิ้วช่วยดันก็ตาม ซึ่งในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดร่วมด้วย
