Shopping Cart
No products in the cart.
View Categories

ท้องผูกบ่อย เสี่ยงริดสีดวง! สาเหตุและวิธีป้องกันที่คุณควรรู้

เวลาที่ใช้อ่าน: < 1 min read

อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อการขับถ่ายไม่เป็นไปตามปกติ ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากในการขับถ่ายอุจจาระ ส่งผลให้มีอุจจาระแข็งหรือต้องออกแรงเบ่งมากในการถ่ายท้อง ความยากลำบากในการขับถ่ายนี้สามารถส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ริดสีดวงทวาร” ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดดำในทวารหนักเกิดการบวมและอักเสบ สร้างความเจ็บปวด รำคาญและไม่สบายตัว

ความสัมพันธ์ระหว่างท้องผูกกับริดสีดวงทวาร #

เมื่อมีการท้องผูกหรือขับถ่ายไม่เป็นปกติ การออกแรงเบ่งอุจจาระมากเกินไปจะทำให้ความดันในช่องท้องและบริเวณทวารหนักเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดการบวมและขยายตัวของหลอดเลือดดำในบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริดสีดวงทวาร หากมีอาการท้องผูกเป็นระยะเวลานานและไม่ได้รับการดูแลหรือการรักษาที่เหมาะสม อาการนี้ก็อาจทวีความรุนแรงของริดสีดวงทวารขึ้นได้

5 สาเหตุของอาการท้องผูก #

หลายๆ ปัจจัยอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เช่น
  • พฤติกรรมการกินอาหาร : การกินอาหารที่ขาดไฟเบอร์ เช่น อาหารจานด่วน อาหารที่มีไขมันสูง และการรับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีและทำให้อุจจาระแข็งตัว
  • การขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย : การขาดกิจกรรมทางกาย เช่น การไม่ออกกำลังกายหรือการนั่งอยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน ทำให้การทำงานของลำไส้ช้าลง ซึ่งมีผลต่อการขับถ่ายเช่นเดียวกัน
  • การดื่มน้ำน้อย : การดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ อุจจาระจึงแห้งแข็ง และขับถ่ายยาก
  • ความเครียด : การเครียดจากสภาพแวดล้อมการทำงานหรือปัญหาทางจิตใจสามารถส่งผลต่อการทำงานและการเคลื่อนตัวของลำไส้ มีผลต่อการขับถ่ายเช่นเดียวกัน
  • การใช้ยาบางชนิด : ยาบางประเภท ที่ใช้และทานอยู่ไม่ว่าจะยาประจำตัว ยาช่วยในการบรรเทาอาการปวด หรือยาอื่นๆบางชนิด จะมีผลต่อการขับถ่ายและทำให้ท้องผูกได้

ผลกระทบจากท้องผูกที่มีต่อร่างกาย #

  • การเพิ่มแรงดันในทวารหนัก : การเบ่งอุจจาระอย่างแรง ทำให้ความดันในทวารหนักเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดดำในทวารหนักเกิดการบวมและกลายเป็นริดสีดวงทวารได้
  • อาการเจ็บปวด : เมื่อเกิดการบวมของริดสีดวงทวาร และเกิดในตำแหน่งที่มีเส้นประสาทอยู่ จะมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ซึ่งจะมีผลรบกวนต่อสุขภายกายและจิตใจ
  • การระคายเคืองและเลือดออก : การเบ่งแรงเพื่อขับถ่ายอุจจาระที่มีความแข็ง ขับถ่ายยาก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณทวารหนักและทำให้มีเลือดออกจากการถ่ายอุจจาระ
  • การติดเชื้อ : ริดสีดวงทวารที่เกิดจากอาการท้องผูกอาจติดเชื้อได้ เนื่องจากการเบ่งที่รุนแรง หรือการสะสมของเสียอาจทำให้ทวารหนักเกิดแผลและอักเสบได้

วิธีป้องกันอาการท้องผูก และริดสีดวงทวาร #

การป้องกันอาการท้องผูกและลดความเสี่ยงในการเกิดริดสีดวงทวารสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยน/เพิ่มเติมอาหารบางประเภท และปรับพฤติกรรมบางอย่าง

  • การเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในอาหาร : ควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักสด ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งจะช่วยให้อุจจาระนุ่มและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  • การดื่มน้ำให้เพียงพอ : ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยการดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้นและป้องกันอุจจาระแห้งแข็ง
  • การออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง หรือโยคะ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และป้องกันอาการท้องผูก
  • การไม่เบ่งอุจจาระมากเกินไป : หากรู้สึกอยากขับถ่าย ควรรีบไปห้องน้ำ ไม่ควรรอจนเกินไป เพราะการเบ่งมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
  • การควบคุมความเครียด : ควรหาเวลาผ่อนคลายจากความเครียด เช่น การทำสมาธิ การนั่งฟังเพลงเบาๆ หรือการเดินเล่นในธรรมชาติ และพักผ่อนให้เพียงพอ

การรักษาอาการท้องผูก และริดสีดวงทวาร #

  • การใช้ยาระบาย : ในกรณีที่ท้องผูกมีอาการรุนแรง สามารถใช้ยาระบายชนิดอ่อนเพื่อช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น โดยไม่ควรใช้ยาระบายเป็นเวลานานเพราะอาจทำให้ลำไส้ขาดการทำงานตามปกติเกิดเป็นลำไส้ขี้เกียจได้
  • การรักษาริดสีดวงทวาร : หากเกิดเป็นริดสีดวงทวารแล้ว ควรเพิ่มการรักษาด้วยยาชนิดรับประทานเพื่อที่ช่วยลดอาการอักเสบ แสบ คัน ปรับสมดุลการขับถ่ายหรือจะใช้ยาภายนอกเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน
  • การผ่าตัด : ในกรณีที่ริดสีดวงทวารมีอาการรุนแรงจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก และไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อลดหรือกำจัดติ่งริดสีดวงทวารที่เป็นอยู่ออกไป แต่เนื่องจากโรคริดสีดวงทวาร คือ หลอดเลือดในร่างกายของเรา ดังนั้นแม้ผ่าตัดแล้ว แต่หากเรายังดูแลตัวเองไม่ดีพอก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้

อาการท้องผูกไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความอึดอัด และไม่สะดวกในการขับถ่าย แต่ยังทำให้เกิดการสะสมของเสียในร่างกาย ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคริดสีดวงทวาร หรือมะเร็งลำไส้ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การป้องกัน รักษาอาการท้องผูกและโรคริดสีดวงทวาร ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องของการกินอาหาร การออกกำลังกาย การขับถ่าย และการดูแลสุขภาพจิต เพื่อให้การทำงานของลำไส้และการขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเหล่านี้ ทั้งนี้แม้โรคริดสีดวงทวารหนักที่เป็นอยู่จะหายแล้ว แต่โรคนี้ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้เสมอเพราะมันคือ หลอดเลือดที่เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเรา ดังนั้นใครที่เป็นบ่อยอาจต้องดูแลด้วยวิธีเหล่านี้มากกว่าคนอื่น