
ริดสีดวงเดือยไก่ คืออะไร ? #
ริดสีดวงเดือยไก่เกิดจากอะไร #
- อาการท้องผูก ถ่ายแข็ง
- การเบ่งอุจจาระแรง
- การถ่ายอุจจาระที่นาน
- ท้องเสียบ่อย หรือการขับถ่ายมากเกินไป หรือธาตุอ่อน
- การยกของหนักเป็นประจำ
- การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
- การดื่มน้ำน้อย ทานผัก ผลไม้น้อย การรับ
- ประทานอาหารที่มีกากใย (ไฟเบอร์) น้อย มีส่วน
- สำคัญต่อการขับถ่ายโดยตรง ดังนั้นหากอยู่ใน
- ช่วงมีความเสี่ยงก็ควรเพิ่มเติมการทานให้มากขึ้น
- หลอดเลือดอ่อนแอจากกรรมพันธุ์หรือการใช้ชีวิต
- การทานอาหารรสจัด แอลกอฮอล์หรือของแสลง
- มีโรค หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น หากเรามีโรคเส้นเลือดขอด หรือไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดกับหลอดเลือดโดยตรง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริดสีดวงเดือยไก่ได้ เพราะเป็นโรคที่เกิดที่หลอดเลือดเช่นเดียวกัน
- การขาดการออกกำลังกาย หรือการออกกำลังกายที่มากเกินไป การที่ลำไส้หรือกล้ามเนื้อบางที่ไม่ได้ขยับตัวจะทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น อ่อนแอ หรือหากทำมากเกินไปก็จะทำให้เกิดการอักเสบหรือบวม ดังนั้นเราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป เช่น ไม่ยกน้ำหนักมากเกินไป ไม่กระโดดกระแทกตลอดเวลา ควรวิ่งช้าๆ หรือเดินเร็ว เป็นต้น
วิธีการรักษาริดสีดวงเดือยไก่ #
1. การทานยารักษาริดสีดวง #
*หลายท่านมีคำถามว่า การทานยาเป็นเพียงการบรรเทาหรือรักษาให้หาย ทั้งนี้ขึ้นกับคุณภาพและประสิทธิภาพของยาที่ทาน อย่างที่ทราบกันว่า ริดสีดวงทวารเกิดจากการอักเสบ ยาหลายชนิดจึงต้องการเพียงลดการอักเสบหรือบวมเท่านั้น ทำให้การรักษาไม่ครบถ้วนเป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุ และทำให้ริดสีดวงทวารหายช้าหรือกลับมาเป็นใหม่ได้ไว อีกทั้งโรคริดสีดวงแม้จะหายได้ แต่ก็กลับมาเป็นใหม่ได้เสมอ เพราะเป็นหลอดเลือดดำส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ดังนั้นถ้าเป็นคนที่หลอดเลือดอ่อนแอ หรือเป็นริดสีดวงบ่อย ควรดูแลสุขภาพร่างกาย อาหารการกิน และพฤติกรรมให้ดีอยู่เสมอ เพื่อลดการกลับมาเป็น และการใช้ยาสมุนไพรบางชนิด สามารถช่วยลดการกลับมาเป็นได้เช่นกัน
2. ยาทา หรือ ยาเหน็บ #

3. การทานผัก ผลไม้ และน้ำให้มากขึ้น #

4. ลดของแสลง #

5. การลดพฤติกรรมเสี่ยง #

6. การรักษาความสะอาด #

เนื่องจากโรคริดสีดวงเดือยไก่จะเป็นติ่งที่อยู่ภายนอกและสัมผัสอากาศ นั่นทำให้สกปรกและอาจเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นควรรักษาความสะอาดให้ดี เช็ดให้แห้ง ทั้งก่อนขับถ่ายและหลังขับถ่าย เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
7. การแช่น้ำอุ่น (Sitz Bath) #

เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยขยายหลอดเลือดบริเวณทวาร จะมีส่วนช่วยลดการคันและปวดได้ แนะนำต้องมีความสะอาดและอุณหภูมิของน้ำต้องเหมาะสม (40 องศาเซลเซียส) หากร้อนเกินไปอาจทำให้อาการแย่ลงแลเหากเย็นเกินไปก็จะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
8. การออกกำลังกายที่เหมาะสม #

เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาการของริดสีดวงดีขึ้น การออกกำลังการที่แนะนำ เช่น โยคะ การเดินเร็ว เป็นต้น เพื่อให้ลำไส้ได้เคลื่อนไหวรวมไปถึงให้หลอดเลือดได้เพิ่มความยืดหยุ่นด้วย แต่ไม่ควรออกกำลังกายที่หักโหม หรือยกของหนักมากเกินไป
9. การรักษาทางการแพทย์ #

หากอาการรุนแรงก็ควรที่จะพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ไม่ว่าจะเป็น การรัดยาง การฉีดยา การให้ยาห้ามเลือด หรือการผ่าตัด หรือหากไม่มั่นใจว่าอาการที่เป็นอยู่ใช่ริดสีดวงทวารหรือไม่ ก็สามารถพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยได้เช่นกัน
แม้จะเป็นการดูแลที่ถูกต้อง แต่เนื่องจากเป็นระยะที่ทิ้งอาการไว้นาน ย่อมใช้เวลานานเช่นกัน ดังนั้นการทานยาที่ช่วยลดการอักเสบของริดสีดวง และยิ่งสามารถรักษาแบบองค์รวมได้ ก็จะทำให้โรคริดสีดวงทวารหนักหายไวขึ้น

ริดสีดวงเดือยไก่รักษานานไหม #
เมื่อมีการรักษาริดสีดวงเดือยไก่ที่ถูกต้อง อาการจะดีขึ้นเรื่อยตั้งแต่วันที่ 3 ขึ้นไป และจะดีจนหายได้ในเวลา 1 เดือน (ทั้งนี้ขึ้นกับบุคคลและความรุนแรงของโรค) ดังนั้นควรดูแลริดสีดวงอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาการดีขึ้นไวที่สุด
ริดสีดวงเดือยไก่สามารถกลับมาเป็นได้อีกไหม #
โรคริดสีดวงทุกชนิดรวมไปถึงริดสีดวงเดือยไก่ แม้ว่าจะผ่าตัดหรือรักษา โรคนี้ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก เพราะมันคือ หลอดเลือดดำที่อยู่ในร่างกายของเรา ดังนั้นเพื่อการรักษาที่ดีและลดการกลับมาเป็น ดังนั้นควรเลือกยาที่ช่วยได้ในระยะยาว และยิ่งเป็นการรักษาองค์รวมได้ยิ่งดี และดูแลสุขภาพตัวเองตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
หากสงสัยว่าตัวเอง มีอาการริดสีดวงอยู่หรือไม่ สามารถสอบถามเพิ่มเติม คอมเมนต์หรือแชร์บทความนี้เพื่อช่วยเหลือคนที่อาจมีปัญหาเดียวกัน ได้ที่ช่องทาง ตามนี้
คำถามที่พบบ่อย #
ริดสีดวงเดือยไก่ กี่วันหาย #
- ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย – กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงการเบ่ง
- ใช้ยาทา หรือยาสอด – เช่น ยาแก้ริดสีดวงที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซน หรือยาชาเฉพาะที่
- แช่น้ำอุ่น (Sitz Bath) – วันละ 10-15 นาที เพื่อลดการอักเสบและอาการบวม
- เลี่ยงการนั่งนานๆ และการใช้กระดาษชำระที่หยาบเกินไป
อ้างอิง: โรงพยาบาลเปาโล
ติ่งริดสีดวง หายเองได้ไหม #
วิธีดูแล & ลดขนาดติ่งริดสีดวง
- รักษาสุขภาพลำไส้ – กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก
- ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน – ใช้น้ำอุ่นล้างหลังขับถ่ายแทนกระดาษชำระที่หยาบ
- แช่น้ำอุ่น (Sitz Bath) – วันละ 10-15 นาที เพื่อช่วยลดอาการระคายเคือง
วิธีรักษาหากต้องการกำจัดติ่งริดสีดวง
หากติ่งริดสีดวง รบกวนการใช้ชีวิต หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษา เช่น
- การจี้ด้วยเลเซอร์
- การตัดออกด้วยศัลยกรรมเล็ก
อ้างอิง: โรงพยาบาลบางปะกอก
ริดสีดวงถ้าปล่อยไว้นานอันตรายไหม #
- เลือดออกเรื้อรัง – ทำให้เสี่ยงต่อภาวะโลหิตจาง (เหนื่อยง่าย หน้ามืด)
- ปวด บวม และอักเสบ – ริดสีดวงภายนอกอาจอักเสบหรือมีลิ่มเลือด (Thrombosed Hemorrhoid)
- ติดเชื้อและเป็นหนอง – หากมีแผลหรือรอยฉีกขาด เสี่ยงติดเชื้อจนกลายเป็นฝีคัณฑสูตร
- ริดสีดวงหลุดออกมาและดันกลับไม่ได้ – อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
- ปรับอาหาร เน้น ไฟเบอร์สูง ดื่มน้ำเยอะ ลดอาหารรสจัด
- ไม่เบ่งถ่ายแรง หลีกเลี่ยงการนั่งห้องน้ำนานๆ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความดันในช่องท้อง
- หากมีอาการเรื้อรัง ควรพบแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
สรุป: หากปล่อยไว้ นานเกินไปโดยไม่รักษา อาจเกิดภาวะรุนแรงที่ต้องผ่าตัด แนะนำให้รีบรักษาแต่เนิ่นๆ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง!
อ้างอิง: โรงพยาบาลพญาไท


ริดสีดวงอักเสบ กินยาอะไร #
ริดสีดวง รักษาได้ด้วยตัวเอง
- ช่วยขับลม ลดแรงดันในช่องท้อง สาเหตุหนึ่งของริดสีดวง
- ลดการระคายเคือง แสบท้องจากอาหารรสจัด
- ช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดซ้ำ
- ช่วยขับของเสียและลดไขมัน ที่ทำให้หลอดเลือดอ่อนแอ
- ช่วยเพิ่มน้ำ ในอุจจาระ ให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ลดการเสียดสีริดสีดวง
- ลดการอักเสบ บวม ของริดสีดวง