- วิธีรักษาริดสีดวง ด้วยตัวเอง
- ข้อดี:
- ข้อเสีย:
- แช่น้ำอุ่นช่วยปรับสมดุลลมปราณ และลดอาการบวม
- ประคบน้ำแข็ง ลดอาการปวดทันที
- กินผักผลไม้ เพิ่มพลังลมปราณ และปรับสมดุลธาตุ
- ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ กระตุ้นการไหลเวียนของลมปราณ
- ใช้น้ำมันมะพร้าว ลดความร้อนสะสมและอักเสบ
- ว่านหางจระเข้ ลดพลังงานร้อนและการอักเสบ
- ออกกำลังกายเบา ๆ กระตุ้นพลังชี่ (Qi) และระบบไหลเวียน
- หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป ป้องกันการอุดตันของพลังงาน
- ยาสมุนไพรแก้ริดสีดวง
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ปรับสมดุลพลังงานในลำไส้
วิธีรักษาริดสีดวง ด้วยตัวเอง #
“ริดสีดวงทวาร” เป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความไม่สบายตัวให้กับหลาย ๆ คน แต่ข่าวดีคือ “คุณสามารถรักษาและบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเองโดยใช้วิธีธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาเสมอไป” หลายคนอาจคิดว่าการรักษาริดสีดวงต้องใช้การผ่าตัดเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว หากดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเหมาะสม อาการก็สามารถดีขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง และต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ยาและการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ “10 วิธีรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ” ซึ่งไม่เพียงช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและอักเสบเท่านั้น แต่ยัง “ช่วยป้องกันไม่ให้อาการกลับมาเป็นซ้ำอีก” มาเริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน!
ข้อดี: #
- ปลอดภัยและไร้สารเคมี – การใช้สมุนไพรและวิธีธรรมชาติช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของยาแผนปัจจุบัน
- ลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการได้ดี – วิธีธรรมชาติ เช่น การประคบเย็น การแช่น้ำอุ่น และการใช้สมุนไพรสามารถช่วยลดอาการปวดและบวมได้
- ช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวม – การเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง และการดื่มน้ำมากขึ้น ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดโอกาสเกิดริดสีดวงซ้ำ
- ค่าใช้จ่ายต่ำ – วิธีธรรมชาติหลายอย่างสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเงินไปกับยาแพง ๆ หรือการผ่าตัด
- ป้องกันการเกิดซ้ำได้ในระยะยาว – เมื่อดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม อาการริดสีดวงมีโอกาสลดลงและป้องกันการกลับมาเป็นใหม่ได้
ข้อเสีย: #
- เห็นผลช้า – การรักษาด้วยธรรมชาติต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ ไม่เหมือนกับยาแผนปัจจุบันที่ให้อาการบรรเทาได้รวดเร็ว
- อาจไม่ได้ผลสำหรับทุกคน – ในบางกรณีที่อาการรุนแรง หรือมีริดสีดวงขนาดใหญ่ การใช้วิธีธรรมชาติอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
- ต้องมีวินัยในการปฏิบัติ – การรักษาแบบธรรมชาติต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และดื่มน้ำมากขึ้น
- อย่าเสี่ยงถ้าริดสีดวงอยู่ในระยะที่ 3 ขึ้นไป – หากเป็นระยะที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกหนัก หรือริดสีดวงยื่นออกมามาก อาจต้องพึ่งการรักษาทางการแพทย์
แช่น้ำอุ่นช่วยปรับสมดุลลมปราณ และลดอาการบวม #

ตามหลักแพทย์แผนจีน “น้ำเป็นพลังหยินที่ช่วยปรับสมดุลหยาง” การแช่น้ำอุ่นช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว ลดอาการอักเสบ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลมปราณให้เป็นปกติ วิธีทำมีดังนี้ :
- เติมน้ำอุ่นลงในอ่าง (อุณหภูมิไม่ร้อนเกินไป)
- แช่ตัวหรือแช่เฉพาะก้นเป็นเวลา 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
- สามารถเติมเกลือทะเลหรือดอกเกลือเพื่อช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อ
ประคบน้ำแข็ง ลดอาการปวดทันที #

“ความร้อนทำให้บวม ความเย็นช่วยให้สงบ” ในมุมมองของแพทย์จีน ความเย็นจากน้ำแข็งช่วยลดพลังงานร้อนในร่างกาย ทำให้เส้นเลือดหดตัว ลดอาการบวมและปวด วิธีใช้คือ:
- ใช้ผ้าห่อถุงน้ำแข็งแล้วประคบบริเวณที่เป็นริดสีดวง
- ทำเป็นเวลา 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
กินผักผลไม้ เพิ่มพลังลมปราณ และปรับสมดุลธาตุ #

ในหลักแพทย์จีน อาหารที่มีใยอาหารช่วยกระตุ้นการเคลื่อนที่ของพลังงานในลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และลดแรงกดทับบริเวณทวารหนัก วิธีง่าย ๆ คือ:
- กินผักใบเขียว เช่น ตำลึง ผักบุ้ง ผักคะน้า ซึ่งช่วยระบาย
- กินผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น มะละกอ กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล
- ดื่มน้ำมะพร้าวช่วยให้พลังงานเย็นสมดุล ลดอาการอักเสบ
ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ กระตุ้นการไหลเวียนของลมปราณ #

ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน น้ำอุ่นช่วยให้ลมปราณไหลเวียนดีขึ้น ลดพลังงานเย็นที่ตกค้างและกระตุ้นระบบขับถ่าย ดื่มน้ำอุ่นวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย ลดอาการท้องผูก และป้องกันริดสีดวงกำเริบ
ใช้น้ำมันมะพร้าว ลดความร้อนสะสมและอักเสบ #

น้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์เย็นตามแพทย์แผนจีน ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดอาการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้น วิธีใช้:
- ทาน้ำมันมะพร้าวบริเวณริดสีดวง วันละ 2-3 ครั้ง
- สามารถทาก่อนนอนเพื่อช่วยให้ซึมซาบได้ดีขึ้น
ว่านหางจระเข้ ลดพลังงานร้อนและการอักเสบ #

ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ใช้โดย :
- นำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาบริเวณริดสีดวง
- แช่เย็นก่อนทา จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น
ออกกำลังกายเบา ๆ กระตุ้นพลังชี่ (Qi) และระบบไหลเวียน #

ในแพทย์จีน การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นชี่ให้ไหลเวียนดีขึ้น ลดการอุดตันของเลือด ควรฝึกโยคะ ไทเก็ก หรือเดินเบา ๆ วันละ 30 นาที
หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป ป้องกันการอุดตันของพลังงาน #

ตามหลักแพทย์แผนจีน “การเคลื่อนไหวคือชีวิต” การนั่งนานทำให้เลือดและลมปราณติดขัด ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุก ๆ 30 นาที เพื่อป้องกันภาวะเลือดคั่งในบริเวณทวารหนัก
ยาสมุนไพรแก้ริดสีดวง #

สมุนไพรจีนที่ช่วยบรรเทาริดสีดวง อาทิเช่น :
- ฮ่วยซัว (Huai Shan, 淮山, 山药): หรือที่รู้จักกันว่า “มันเทศจีน” มีฤทธิ์ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูก และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด
- จื้อขวง (Zhi Ke, 枳壳) : สมุนไพรจีนที่ช่วยให้ลำไส้เคลื่อนตัวดีขึ้น บรรเทาอาการท้องผูกและลดแรงกดที่ทำให้เกิดริดสีดวง
- ตังเซียม (Dang Shen, 党参): มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดอาการอักเสบของริดสีดวง
- เก๊กฮวย (Ju Hua, 菊花): ใช้ชงดื่มเป็นน้ำเก๊กฮวย ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการบวมของริดสีดวง
- โกฐเชียง (Chuan Xiong, 川芎): ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการบวมและปวดริดสีดวง
ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ปรับสมดุลพลังงานในลำไส้ #

การขับถ่ายให้เป็นเวลาช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลพลังชี่ได้ดีขึ้น ควรฝึกขับถ่ายทุกวันในเวลาเดียวกัน และไม่เบ่งแรงเกินไป
การรักษาริดสีดวงด้วยแนวทางแพทย์แผนจีนและธรรมชาติต้องอาศัยความสมดุลของลมปราณและธาตุ หากปฏิบัติตาม 10 วิธีนี้อย่างต่อเนื่อง ภายใน 7 วัน อาการจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างที่คนจีนกล่าวว่า “สุขภาพดีเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำทุกวัน”
อ้างอิง
HDmall, 2023, “10 วิธีรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ เห็นผลใน 7 วัน”, https://hdmall.co.th/blog/health/how-to-cure-hemorrhoid
Vejthani Hospital, 2018, “รักษาริดสีดวงด้วยตัวเองอย่างไรให้ได้ผล”, https://www.vejthani.com/th/2018/12/รักษาริดสีดวงตัวเอง
Pobpad, 2022, “สมุนไพรรักษาริดสีดวง: ตัวช่วยจากธรรมชาติ”, https://www.pobpad.com/สมุนไพรรักษาริดสีดวง
Kapook Health, 2019, “สมุนไพรไทยรักษาริดสีดวง มีอะไรบ้าง?”, https://health.kapook.com/view190735.html
Youtube – ช่องปรับก่อนป่วย, 2023, “ริดสีดวงทวาร กับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน”, https://www.youtube.com/watch?v=sb2QYfgJCeE