ในสังคมปัจจุบัน ความเปิดกว้างทางเพศทำให้การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก (Anal sex) กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มชายรักชายหรือชายหญิงก็ตาม ทว่าประเด็นที่หลายคนยังสงสัยคือ “เพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเสี่ยงโรคริดสีดวงทวารหรือไม่?” บทความนี้จะตอบคำถามดังกล่าวจากมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบันและผสานแนวคิดของ แพทย์แผนจีน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจในเชิงลึกและรอบด้าน

มุมมองจากแพทย์แผนปัจจุบัน ทำไม Anal Sex ถึงเสี่ยงริดสีดวง ?
1. โครงสร้างของทวารหนักไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการสอดใส่
ทวารหนักมีหน้าที่หลักคือขับถ่าย ไม่ได้มีสารหล่อลื่นตามธรรมชาติเหมือนช่องคลอด ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจทำให้เกิด การเสียดสี ฉีกขาด และบาดเจ็บ ได้ง่าย
2. เพิ่มแรงดันในหลอดเลือดดำ
การสอดใส่ทำให้เกิดแรงดันตรงบริเวณทวารหนักและหลอดเลือดดำที่อยู่รอบๆ การกระทำซ้ำๆ บ่อยครั้งโดยไม่ใช้การหล่อลื่นเพียงพอ หรือการมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรง อาจกระตุ้นให้หลอดเลือดดำโป่งพอง เกิดเป็นริดสีดวงทวารได้ในที่สุด
3. เสี่ยงต่อการอักเสบ และติดเชื้อ
หากมีแผลหรือริดสีดวงอยู่ก่อน การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น HPV หรือแบคทีเรียในลำไส้

การเคลื่อนไหวพลังชี่ และหยางในลำไส้ใหญ่
ในศาสตร์แพทย์แผนจีน ริดสีดวงทวาร (痔疮, Zhìchuāng) เกิดจากการ เสียสมดุลของพลังชี่ (Qi), พลังเลือด (Xue), หยิน-หยาง และระบบการหมุนเวียนของพลังงานในลำไส้ใหญ่และตับ
สาเหตุหลักของริดสีดวงในมุมแพทย์จีน
- พลังชี่ตก (Qi Xu) การเบ่งถ่ายบ่อย เบ่งแรง ทำให้พลังชี่ในบริเวณลำไส้ตกลง ไม่สามารถพยุงอวัยวะภายในได้
- ความร้อนสะสมในลำไส้ใหญ่ (Large Intestine Heat) เกิดจากการกินอาหารเผ็ดจัด ของทอด ของมัน และมีอารมณ์เครียด
- การขัดขวางของพลังชี่และเลือด (Qi and Blood Stagnation) เกิดจากการนั่งนาน การขาดการเคลื่อนไหว ทำให้เลือดและพลังงานไหลเวียนไม่สะดวก
- มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักบ่อยครั้ง: ถือว่าเป็น “พฤติกรรมที่ฝืนธรรมชาติ” ทำให้เกิดการขัดขวางของชี่ที่ไหลเวียนลงล่าง (Descending Qi) และทำให้พลังหยางในไตอ่อนแอ ส่งผลให้หลอดเลือดในทวารหนักโป่งพอง

การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคริดสีดวงทวาร โดยเฉพาะเมื่อทำเป็นประจำโดยขาดการเตรียมพร้อมหรือการดูแลที่เหมาะสม ทั้งจากมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบันและแผนจีน ต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า การกระทำนี้สามารถกระทบต่อสมดุลร่างกาย และอาจนำไปสู่การอักเสบ เส้นเลือดโป่งพอง และพลังชี่ตกลงได้
หากคุณมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเป็นประจำ ควรตระหนักถึงความเสี่ยงนี้ และใส่ใจการดูแลสุขภาพทวารหนักในระยะยาว หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อมีข้อสงสัย
แหล่งอ้างอิง
- Wald, A. (2009). “Sexual practices and anorectal disease.” Diseases of the Colon & Rectum, 52(1), 9–13. https://doi.org/10.1007/DCR.0b013e318194d8e6
- Mayo Clinic. Hemorrhoids. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hemorrhoids/symptoms-causes/syc-20360268
- 張志祥 (Zhang Zhixiang). (2007). 中醫痔瘡學 [Traditional Chinese Hemorrhoid Medicine]. 北京: 中國中醫藥出版社
- 中國中醫研究院 (China Academy of Traditional Chinese Medicine). 痔瘡與肛門疾病的中醫防治.